การเก็บผลผลิตพืชผักไฮโดรโปนิกส์
เนื่องจากพืชผักมีความบอบบางจึงทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย โดยเฉพาะความเสียหายในช่วงเก็บเกี่ยว ซึ่งสาเหตุหลักมาจากโรค โดยเฉพาะ เชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ทำให้เกิดความเสีย ได้แก่ การตัดแต่ง การบรรจุ การเก็บเกี่ยว และการขนส่ง ดังนั้นจึงควรมีการจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อให้พืชผักมีคุณภาพที่ดี
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของพืชผัก
- การสูญเสียน้ำหนักเนื่องจากการคายน้ำ พืชผักที่มีการคายน้ำมาก จะทำให้คุณภาพของพืชผักเสียเร็ว ซึ่งอุณหภูมิมีผลต่อการคายน้ำ ดังนั้นจึงควรเก็บผีกไว้ในที่ร่มเย็น หรือทำการบรรจุโดยใช้พลาสติกหรือกระดาษหุ้ม ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียส
- การปฎิบัติหลังการเก็บเกี่ยว มีการทำความสะอาดโดยเก็บเศษดิน ใบเสียออก และใส่สารครอลีนเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ระหว่างทำให้เย็น หรือใส่ในน้ำที่ล้างทำความสะอาด
- การบรรจุหีบห่อ ไม่ควรอัดแน่นหรือหลวมเกินไป ระวังไม่ให้เกิดการกระแทกหรือกดทับ
การปฏิบัติเพื่อลดความเสียหายของผัก
- เทคโนโลยีการปลูก เริ่มจากการคัดเลือกพันธุ์ที่ดี การให้น้ำ การใส่ปุ๋ย การป้องกันศัตรูพืชอย่างถูกวิธี
- เก็บเกี่ยวผักที่มีคุณภาพ หลังจากการตัดควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีการระบายอากาศที่ดี ในการเก็บต้องระวังให้พืชเกิดบาดแผลน้อยที่สุด
การตลาดพืชผักไฮโดรโปนิกส์
ตลาดส่วนใหญ่ของพืชที่ปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ มีทั้งจำหน่ายหน้าสวนตนเอง นำไปฝากจำหน่ายตามตลาดใกล้บ้าน หรือมีพ่อค้าคนกลางมารับ และมีการส่งไปแหล่งต่างๆ เช่น โรงแรม ภัตราคาร ร้านอาหาร ตลาดกลางและห้างสรรพสินค้า ถ้าเป็นผักสลัดนิยมเพิ่มมูลค่าด้วยการจำหน่ายคู่กับน้ำสลัด ทำเป้นสลัดโรล ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เป็นต้น ซึ่งตลาดของผักที่ปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ กำลังขยายตัวไปได้ด้วยดี
ข้อมูลจากหนังสือ ไฮโดรโปนิกส์ ฉบับชาวบ้าน